นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Livinginsure
ข้อ 1 คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึง แก่กรรมโดยเฉพาะ
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
“ลูกค้า” หมายความว่า ผู้ที่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทฯ เชิญชวน ชักชวน หรือชี้ช่อง ให้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัย และให้รวมถึงผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“การตลาดแบบตรง” หมายความว่า การติดต่อสื่อสารไม่ว่าโดยวิธีการใด ๆ เพื่อการโฆษณาหรือการทำการตลาด โดยส่งตรงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดย เฉพาะเจาะจง
“บริษัทประกันภัย” หมายความว่า บริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และหมายความรวมถึง สาขาของบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
“ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย” หมายความว่า ผู้ที่ระบุชื่อเป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งเป็นผู้จัดให้มีการประกันภัยเพื่อประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย
ข้อที่ 2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมมีดังนี้
1. ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน อาทิ ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ
2. ข้อมูลช่องทางการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล
3. ข้อมูลบัญชี อาทิ รายละเอียดการชำระเงิน และบัญชีธนาคาร
4. ข้อมูลทางธุรกรรม อาทิ ประวัติการรับบริการต่าง ๆ ประวัติการซื้อขาย
5. ข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน การสั่งซื้อ ความสนใจของท่านที่มีต่อบริการต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ
6. ข้อมูลทางเทคนิค อาทิ Google Analytics หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการเข้าระบบ ข้อมูลการใช้งาน และ การตั้งค่า (Setting)
7. ข้อมูลทางการตลาด อาทิ ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการต่อบริการที่ได้รับ และความคิดเห็นต่อการให้บริการของบุคลากร
8. รูปภาพ
ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย หรือการเข้าทำสัญญากับท่าน หากท่านไม่ให้ข้อมูล ส่วนบุคคคลบางอย่างที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ด้านล่างหรือให้บริการแก่ท่านได้อย่าง เต็มรูปแบบหรือท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการของบริษัทฯ ได้อย่างเหมาะสม และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทฯ หรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ใม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลที่สามในนามของบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้และนโยบาย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน
ข้อ 3 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
1. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1) เมื่อท่านลงทะเบียนบัญชีเพื่อใช้บริการกับบริษัทฯ หรือเมื่อท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัทฯ
2) เมื่อท่านสมัครรับข้อมูลสื่อโฆษณาหรือข้อมูลด้านการตลาดจากบริษัทฯ
3) จากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม
4) จากการเก็บข้อมูลการใช้แพลตฟอร์มของท่านผ่านบราวเซอร์คุกกี้
5) จากการติดต่อสอบถามของท่าน หรือผ่านการโต้ตอบทางอีเมลหรือ ช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ เช่น โทรศัพท์ เพื่อที่บริษัทฯ สามารถติดต่อท่านกลับได้
6) เมื่อท่านกดซื้อบริการหรือผลิตภัณฑ์จากบริษัทฯ
7) เมื่อท่านเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มของบริษัท หรือแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ เฟสบุ๊ค และ กูเกิ้ล
2. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม เช่น Email Login, Facebook Login โดยได้รับข้อมูลเมื่อท่านสมัครระบบหรือเข้าใช้งานระบบผ่านช่องทางของบุคคลที่สาม
ข้อ 4 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
1. เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงาน เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน ซึ่งสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน (https://www.oic.or.th)
2. เพื่อขอใบเสนอราคากรมธรรม์ประกันภัย
3. เพื่อวิเคราะห์และเลือกสรรกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
4. เพื่อนำเสนอข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันภัยต่าง ๆ แก่ลูกค้า พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือบริการที่เหมาะสม
5. เพื่อดำเนินการในฐานะตัวแทนของลูกค้าในการประสานงานกับบริษัทประกันภัยเพื่อพิจารณารับประกันภัยและนำส่งกรมธรรม์ประกันภัย การจ่ายเบี้ยประกัย หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
6. เพื่อเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นฐานข้อมูลของบริษัทฯ
7. เพื่อเสนอขายหรือดำเนินกิจกรรมทางการตลาดแบบตรง (Direct Marketing)
8. เพื่อประโยชน์ในการจัดฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ และเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของท่าน
9. เพื่อการดำเนินการชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าที่ท่านซื้อในระบบ
10. เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับข้อมูลหลังการบริการ เช่น การสอบถามข้อมูล การแสดงความคิดเห็นหลังการบริการ หรือ การส่งคำร้องแก่ผู้ให้บริการ เป็นต้น
11. เพื่อยืนยันตัวตนว่าท่านเป็นผู้เดียวในการเข้าถึงบัญชีของท่าน
12. เพื่อวิจัยการตลาดและบริหารความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ
13. เพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย และระเบียบบังคับใช้ของรัฐ
14. เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับท่าน รวมถึงการยินยอมให้บริษัทฯ สามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่กลุ่มธุรกิจและพันธมิตรของบริษัทฯ ผู้ประมวลผลข้อมูล หรือหน่วยงานใด ๆ ที่มีสัญญากับบริษัทฯ
หากบริษัทฯ อาศัยความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านย่อมไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนการถอนความยินยอม
ข้อ 5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอก ดังนี้
1. หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นตามภารกิจ อำนาจหน้าที่ กฎหมาย และข้อผูกพันในการดำเนินงานของสำนักงานทั้งในและต่างประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2. บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ตัวแทนประกันวินาศภัย ผู้ประเมินวินาศภัย นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้สำรวจภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ บริษัทประกันภัยต่อ สำนักงาน สาขาในไทยของบริษัทประกันภัยต่างประเทศ โรงพยาบาล ศูนย์กู้ชีพ แพทยสภา ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ศูนย์บริหารจัดการกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทน (TPA) อู่ซ่อมรถ ผู้เอาประกันภัย ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย พยาน ผู้รับผลประโยชน์ ทายาทโดยธรรม ผู้มีส่วนได้เสีย คู่พิพาท คู่กรณี ผู้เสียหาย ผู้รับมอบอำนาจ เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ของบริษัทฯ บุคคลอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ ธุรกรรม หรือติดต่อกับทางบริษัทฯ เป็นต้น
ข้อ 6 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. เก็บรวบรวมโดยมีการบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้บริการ ได้แก่ ตั้งเซิฟเวอร์ด้วยตนเอง, Google Cloud Platform
2. บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้เก็บรวบรวมมาในการดำเนินงานของบริษัทฯ ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหัวข้อ "วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ"
3. บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลกับพนักงานภายใต้สัญญาจ้างของบริษัทฯ ที่มีขอบเขตหน้าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล เปิดเผยบนแพลตฟอร์มของบริษัทฯ หรือช่องทางสังคมออนไลน์เพื่อการโฆษณา นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานข้อมูลเครดิต เพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อการป้องกันการฉ้อโกง
ข้อ 7 การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางบริษัทฯ จัดเก็บจะอยู่ในลักษณะของ Soft Copy
2. ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องมืออุปกรณ์ของบริษัทฯ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือของทางบริษัทฯ รวมถึงมีการเก็บข้อมูลในบนระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้แก่ ตั้งเซิฟเวอร์ด้วยตนเอง, Google Cloud Platform
3. ระยะเวลาจัดเก็บ เป็นไปตามตารางนี้
ลำดับที่ | ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคล | ระยะเวลาประมวลผล |
---|---|---|
1. | ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน อาทิ ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ | 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
2. | ข้อมูลช่องทางการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร อีเมล | 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
3. | ข้อมูลบัญชี อาทิ รายละเอียดการชำระเงิน และบัญชีธนาคาร | 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
4. | ข้อมูลทางธุรกรรม อาทิ ประวัติการรับบริการต่างๆ ประวัติการซื้อขาย | 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
5. | ข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน การสั่งซื้อความสนใจของท่านที่มีต่อบริการต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ | 5 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
6. | ข้อมูลทางเทคนิค อาทิ Google Analytics หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์(IP Address) ข้อมูลการเข้าระบบ ข้อมูลการใช้งาน และ การตั้งค่า (Setting) | 5 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
7. | ข้อมูลทางการตลาด อาทิ ความพึงพอใจของท่านต่อบริการที่ได้รับ และความเห็นต่อการให้บริการของบุคลากร | 5 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
8. | รูปภาพ | 5 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา |
1. สิทธิในการได้รับแจ้ง (right to be informed): ท่านมีสิทธิที่จะได้รับแจ้งเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกจัดเก็บ รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ วิธีการจัดเก็บและระยะเวลาการจัดเก็บ
2. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท
3. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ
4. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
5. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
7. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
8. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO) ของบริษัทฯ ได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอดังกล่าว
ข้อ 9 การยื่นคำร้องเพื่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านมีความประสงค์ในการยื่นคำร้องเรียนเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมไปถึงการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล การขอเพิกถอนการยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคล และการส่งความคิดเห็นต่อการบริการ ท่านสามารถติดต่อได้ทางเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 10 กิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบตรง
ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทฯ จะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การให้บริการ ที่บริษัทฯ คิดว่าท่านอาจสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการกับท่านอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากท่านได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากบริษัทฯ แล้ว ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยท่านสามารดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูล ข่าวสารได้โดยสามารถติดต่อมาได้ผ่านทางที่อยู่อีเมล info@livinginsure.co.th
ข้อ 11 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผล
รายละเอียดที่ปรากฏตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหัวข้อ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม” และ “วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ” บริษัทฯ มีการดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่บนพื้้นฐาน ดังต่อไปนี้
1. การปฏิบัติตามสัญญา ได้แก่ การจัดส่งใบเสร็จให้ท่านทางที่อยู่อีเมลภายหลังการใช้บริการจากทางบริษัทฯ หรือการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของท่าน และสัญญาอื่นที่ทางเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำไว้กับทางบริษัทฯ
2. ความยินยอม ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมเมื่อสมัครใช้บริการ ทั้งนี้หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอม ท่านสามารถแจ้งเพิกถอนความยินยอมในการให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลในวัตถุประสงค์หรือลักษณะใด ๆ ที่ได้ระบุไว้ข้างต้นได้ตลอดเวลา รวมถึงการร้องขอให้ลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นนิรนามได้ ด้วยการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล โดยใช้แนวทางการถอนความยินยอมอันประกอบไปด้วย
1) ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ อีเมล หรือ เว็บไซต์
2) แจ้งผ่านวาจา อาทิ โทรศัพท์ หรือ ต่อหน้าบุคลากร
3) แจ้งผ่านลายลักษณ์อักษร
โดยเมื่อบุคลากรของบริษัทฯ ได้รับคำร้องของท่านแล้ว จะทำการส่งต่อให้แก่ฝ่ายบริหารจัดการข้อมูลเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากไม่ได้รับการยินยอม เว้นแต่เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
2) เพื่อจัดทำเอกสารทางประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ การวิจัยหรือสถิติ
3) เพื่อการปฎิบัติตามพันธะสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา
4) เพื่อดำเนินงานตามระเบียบหรือกฎหมายของภาครัฐ หรือการใช้อำนาจรัฐของผู้ควบคุมส่วนบุคคล
5) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ให้บริการ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต้ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในการให้ข้อมูลส่วนบุคคล
6) เพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 12 การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติ และกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว เราจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการปรับเปลี่ยนข้อมูลลงในเว็บไซต์ของเราโดยเร็วที่สุด
ข้อ 13 วิธีติดต่อบริษัทฯ
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือต้องการใช้สิทธิในฐานะลูกค้า ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่
บริษัท ลิฟวิ่ง อินชัวร์ โบรกเกอร์ จำกัด
ที่อยู่ เลขที่ 213/3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
อีเมล info@livinginsure.co.th
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO)
ที่อยู่ เลขที่ 213/3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
อีเมล dpo@livinginsure.co.th
วันที่มีผล: ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป